วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2552

solidwork



SolidWorks

SolidWorks พัฒนาขึ้นในปี 1995 โดยบริษัทDassault System ในฝรั่งเศษ
เป็นซอฟต์แวร์เพื่อให้นักออกแบบใช้ เป็นเครื่องมือในการออกแบบทางวิศวกรรม เพื่อสร้างตัวอย่างผลิตภัณฑ์จำลองใน Computer ก่อนที่จะสร้างผลิตภัณฑ์ต้นแบบจริง โดยตัวซอฟต์แวร์จะจัดอยู่ในตระกูล CAD (Computer Aided Design) ซึ่งสามารถสร้างชิ้นงานจำลองในรูปแบบ 3D Solid Models เป็นแบบงานแยกชิ้น (Part) และแบบงานประกอบ (Assembly) เพื่อนำไปสร้างเป็น 2D Standard Engineering (CADD = Computer Aided Design and Drafting)

โปรแกรม Solidwork เป็นโปรแกรมที่มีควมยืดหยุ่นในการทำงานสูงมาก คือ สามารถที่จะทำงานมากมายหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นชิ้นงานที่ต้องขึ้นเป็น solid หรือ surface ก็มีเครื่องที่รองรับเป็นอย่างดี เมื่อสร้างชิ้นงานเสร็จเรียบร้อยฏสามารถที่จะประกอบชิ้นงานได้ใน Mode ของชุดคำสั่ง Assembly รวมทั้งผู้ต้องการ Drawing ของชิ้นงาน ก็เพียงลากชิ้นงานมาว่างในใบงานแล้วขนาด จะมองเห็นได้ว่าผู่ใช้งาน สามารถ ที่จะประหยัดเวลาในการทำงานและสนุกกับการทำงานอีกด้วย



ประสิทธิภาพการทำงาน
ประสิทธิภาพของ SolidWorksเป็นการเจาะลึกให้นักออกแบบสามารถสร้างชิ้นงานจำลองทางด้าน Mechanical Engineering Design ได้อย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ยังสามารถนำไปใช้ในการคำนวณทางวิศวกรรม และการตรวจสอบความผิดพลาดของ 3D Solid Models เพื่อลดต้นทุนในการผลิต และลดระยะเวลาการทำงานในการออกแบบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในบริษัทและองค์กร

ลักษณะการทำงาน
SolidWorksแบ่งหมวดการทำงานหลักออกเป็น 3 หมวดคือ Part, Assembly และ Drawing โดยรูปแบบการทำงานทั้ง 3 หมวดมีลักษณะการใช้งานดังนี้

* Part Mode เป็นหมวดการทำงานเริ่มต้นก่อนที่จะก้าวสู่การทำงานในหมวด Assembly และ Drawing ในขั้นนี้จะมีการแบ่งการทำงานออกเป็น 2 ส่วน คือ การใช้ 2D Sketch เพื่อนำไปสู่การสร้างเป็น 3D Feature และมีเงื่อนไขเป็น Feature-Based Modeling และ Parametric โดยมีการอ้างอิงจาก Solid Mode

1. Feature-Based Modelingคือ การออกแบบซอฟต์แวร์ให้สามารถทราบถึงคุณสมบัติต่างๆของ Solid Model ที่สร้างขึ้นมา เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเปลี่ยนแปลงและแก้ไข Model ในลำดับการทำงานแต่ละขั้นได้ง่ายและรวดเร็ว
2. Parametric Modelคือการออกแบบซอฟต์แวร์ซึ่งใช้เงื่อนไขทางคณิตศาสตร์ในการแก้ไขขนาดรูปร่าง ทางเรขาคณิตของ Model ที่สร้างขึ้นมา
3. Solid Model คือแบบจำลองบนคอมพิวเตอร์ที่สามารถแสดงค่าต่างๆ เช่น Density, Material, Mass, Weight เป็นต้น และยังสามารถมองเห็น 3D Model ได้ทุกมุมมอง

* Assembly Mode เป็นหมวดการทำงานเพื่อนำ Part Model เข้าไปประกอบเป็นเครื่องจักรกลหรือกลไกต่างๆ และมีเงื่อนไขเป็น Feature Base และ Parametric เช่นเเดียวกับ Part Model โดย Part Model และ Assembly จะมีความสัมพันธ์ซึ่งกันเเละกัน เมื่อทำการแก้ไขในหมวดใด อีก หรือมีการประกอบที่ซ้อนหรือทับกันหมวดจะมีการเปลี่ยนแปลงตามการแก้ไขไปด้วย การทำงานใน Assembly สามารถช่วยให้นักออกแบบหรือวิศวกรสามารถตรวจสอบความผิดพลาดในการสร้าง Part ได้โดยการใช้คำสั่งต่างๆ เช่น คำสั่ง Interference Detection เพื่อตรวจสอบการขัดกันเมื่อมีการเคลื่อนที่ โดยใช้คำสั่ง Move Component เพื่อตรวจสอบการเคลื่อนที่ของกลไก คำสั่ง Simulation เพื่อจำลองต้นกำลังในการทำงานจริงของเครื่องจักร หรือหากชิ้นงานจำลองที่ออกแบบมีข้อผิดพลาด ก็สามารถแก้ไข Part ใน Assembly ได้เลย ทำให้การออกแบบเป็นเรื่องง่าย และผู้ออกแบบจะสนุกกับการทำงาน Design
การทำงานใน Assembly Mode มีลักษณะการทำงาน 2 กรณีได้แก่
1. Bottom-Up Assembly คือ การนำ 3D Models ต่างๆที่สร้างเสร็จแล้วใน Part Mode ไปวางในหน้าต่าง Assembly เพื่อทำการประกอบ โดยการใช้คำสั่ง Mate หรือ Smart Mate ซึ่งวิธีนี้จะเหมาะสำหรับผู้ใช้ในระดับเริ่มต้นหรือขั้น Basic
2. Top-Down Assembly คือการสร้าง 2D Sketch เป็นโครงร่างระหว่างชิ้นส่วนต่าง ๆ ระหว่าง Part หรือการสร้าง Part ใน Assembly โดยให้มีขนาดและรูปร่างที่มีการอ้างอิงกับ Part อื่น ๆ ทั้งในส่วน Sketch และ Feature วิธีนี้เหมาะกับผู้ใช้ในระดับ Advance

* Drawing Mode เป็นหมวดการทำงานเพื่อสร้าง 2D Standard Engineering โดยในหมวดนี้เป็นการสร้างมุมมองและกำหนดรายละเอียดตามระบบมาตรฐานต่าง ๆ โดยจะแบ่งการทำงานออกเป็น 2 ส่วนคือ
1. Generative Draftingซึ่งเป็นการสร้าง2D Sketch และ Interaction Draftingซึ่งเป็นการนำ 3D Model จาก Part และ Assembly มาวางใน Drawing เพื่อสร้างเป็น 2D Draftingจะมีลักษณะเป็น Parametric และ Relation เช่นกัน แต่จะไม่สามารถใช้คำสั่งใน Drawing Commands ได้ เพราะคำสั่งต่าง ๆ จะต้องอ้างอิงกับ 3D Model
2. Interaction Drafting คือการนำ 3D Model จาก Part และ Assembly มาวางDrawing เพื่อสร้างเป็น 2D Drafting การทำงานในหมวดนี้สามารถใช้คำสั่งจาก Annotation Command และ Drawing Command เพื่อสร้างมุมมองและกำหนดรายละเอียดได้โดยอัตโนมัติ


1 ความคิดเห็น:

  1. Playtech Announces $1.3 Billion Investment in the US - KLIK
    Playtech 목포 출장마사지 Corp. 삼척 출장마사지 (NASDAQ: NRI), 공주 출장마사지 the holding 경산 출장안마 company behind the highly anticipated 충주 출장안마 global expansion of the online gambling technology,

    ตอบลบ


SolidWorks ช่วยงานในส่วนต่างๆ อย่างไร

1. Marketing

  • Better Presentation การ Present ลูกค้าหรือผู้บริหารที่มีอำนาจตัดสินใจซึ่งอาจจะมีเวลาไม่มากนักที่จะลงราย ละเอียด หรือดูเพียง Drawing บนกระดาษ ดังนั้น การสื่อสารโดยแสดงเป็นภาพ 3 มิติ สามารถหมุนชิ้นหมุนชิ้นงานดูได้รอบหรือการมองเห็นการทำงานภายในที่แสดงโดย ใช้คอมพิวเตอร์นั้น ช่วยให้เราสื่อสารกันได้เข้าใจและง่าย โดยเฉพาะ อย่างยิ่งภาพพจน์ และ ความน่าเชื่อถือของบริษัทย่อมดีขึ้นและดีกว่าคู่แข่ง

  • Flexibility ความใฝ่ฝันของผู้ซื้อคือ สามารถมองเห็น Product และแก้ไขตามใจมากที่สุด ซึ่งด้วยความสามารถของ Software SolidWorks จะทำให้ เราสามารถแก้ไขทุกอย่างง่าย และรวดเร็วจนลูกค้าพอใจ

2. Research & Development

  • Faster time to market เมื่องานออกแบบสามารถสร้างได้เร็วข้นการแก้ไขทำได้ง่ายขึ้นด้วย เครื่องไม้เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพอย่าง SolidWorks ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ จากทีมงานจำนวนเท่าเดิมย่อมจะเพิ่มมากขึ้นและสามารถสร้างงานให้มี นวัตกรรม รวมทั้งผลิตสู่ท้องตลาดได้เร็วกว่าคู่แข่ง สร้างความได้เปรียบแก่บริษัท ให้คู่แข่งตามทันได้ยาก แต่ในทางกลับกันนึกดูว่า คู่แข่งของเรามีเครื่องมือดี ๆ แบบนี้แต่เราไม่มี เราคงต้องวิ่งตามกันเหนื่อย

  • Better Quality Product SolidWorks คือ เครื่องมือที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถผลิตภัณฑ์บนคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็น 3 มิติ อย่างที่มันเป็น ผู้ออกแบบสามารถเห็นงานจริง ๆ สามารถจำลองการประกอบเพื่อดูว่าเหมาะสมหรือไม่ ติดขัดอย่างไร รวมไปถึงการทดสอบ Function การเคลื่อนไหวของกลไกภายใน เพื่อจุดประสงค์เดียวคือ Better Product และนั่นคือสิ่งที่ SolidWorks ให้ได้

  • Lower Cost Prototyping หากใช้ SolidWorks ในการออกแบบแล้ว การจ้างทำ Prototype แทบจะหมดความสำคัญลงไปเลย เพราะเราสามารถมองเห็นบนจอได้อยู่แล้ว รวมทั้งคุณสมบัติต่าง ๆ เช่น น้ำหนัก, จุด Center of Gravity, พื้นผิวและปริมาตร และแน่นอนเมื่อต้องการทำ Prototype ซัก 10 ชิ้น อาจจะคุ้มมูลค่าของ Software แล้วก็ได้

3. Production

  • Automation ในกรณีที่บริษัทเป็นผู้ผลิตที่มี CNC อยู่แล้ว บริษัทสามรถหา Software CAM (Computer Aided Manufacturing) เพื่อแปลง file จากชิ้นงาน 3 มิติให้กลายเป็น G-Code เพื่อส่งให้กับเครื่อง CNC ได้โดยไม่ต้องสร้าง Drawing แล้วไปป้อนค่าอีกครั้ง ทำให้งาน Production เร็วขึ้นและมีความถูกต้องแม่นยำสูง

  • Better Communication with Supplierในกรณีที่บริษัท Supplier นอกจากเป็นผู้ผลิต เราสามารถที่จะคุยกับ Supplier เป็น 3 มิติ ได้เลย โดยไม่ต้องจำกัดว่าจะต้องเป็น 2D Drawing เพียงอย่างเดียว โดยเราสามารถกดสั่ง File 3 มิติ ให้กับ Supplier ซึ่งมีระบบ CAD/CAM ใช้งานอยู่แล้ว(ส่วนใหญ่) โดยที่ Supplier ไม่ต้องเสียเวลา ต้องมาตรวจสอบกันอย่างละเอียด ถ้าส่งเป็น File ไปเลยรับรองไม่ผิดพลาดแน่นอน

  • Decrease Human Error & Re-works เมื่อระบบเราเป็น Computerize and Automation โดยที่ Computer และ Software เข้ามาทำงานแทนที่คน แน่นอนว่า Human Error ลดลงแน่นอน และเมื่อ Design ได้ดีทุกอย่าง Automation หมด ย่อมลด Engineering Rework ได้อีกทอดหนึ่ง นั่นหมายถึงลดต้นทุนได้แบบมีนัยสำคัญ

SolidWorks กำเนิดขึ้นจากความต้องการที่จะแก้ปัญหา 3 อย่าง ข้างต้น เพื่อที่จะให้วิศวกรทั่วไปได้ใช้ความสามารถของตนอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องไปเสียเวลานั่งเขียนแบบอีกต่อไป

วิธีทำ

วิธีทำ

วิธีทำสปริงด้วยโปรแกรม SOLIDWORKS

วิดีโอตัวอย่าง

บรรณานุกรม

1.http://www.intechthai.com/solidwork/professional.html
2.http://www.applicadthai.com/solidworks2008/part1/page1.php
3.http://www.softlogicsolutions.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=296635&Ntype=3
4.http://porclick.co.cc/?page_id=7
5.http://www.softlogicthai.com/product.detail_381078_th_1650189
6.หนังสือคู่มือสำหรับผู้ใช้ SolidWork ฉบับสมบูรณ์ โดย ทวีศักดิ์ ศรีช่วย